เหตุแห่งความฝัน
ความฝัน นอกจากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่เราหลับ ยังเป็นเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าได้ ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงเหตุแห่งความฝันไว้ดังนี้
สิ่งที่บ่งบอกอนาคตข้างหน้าหรือลางบอกเหตุในทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า บุพนิมิต คำ ๆ นี้ประกอบด้วยคำสองคำคือ บุพ ( บุพะ ) แปลว่า ก่อน , สิ่งที่เกิดขึ้นก่อน และคำว่า นิมิตที่แปลว่า เครื่องหมาย , สัญลักษณ์หรือลางบอกเหตุ เช่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจะเห็นแสงสว่างขึ้นมาก่อน ก่อนที่ฝนจะตกเราจะเห็นท้องฟ้าที่มืดครึ้ม เป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในอนาคต
สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมีหลายประเภทด้วยกัน เช่น ลักษณะของคน สัตว์ สิ่งของ ปรากฏการณ์ธรรมชาติรวมไปถึงความฝัน มีหลายคัมภีร์ในพุทธศาสนาที่กล่าวถึงเหตุแห่งความฝันไว้หลายคัมภีร์ด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือคัมภีร์สารัตภสังคหะ คัมภีร์นี้กล่าวถึงการเกิดของความฝันไว้ 4 ลักษณะได้แก่
1. ธาตุโขก
เกิดจากธาตุในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติหรือป่วยเป็นโรคต่าง ๆ เมื่อนอนหลับจึงเกิดความฝันแปลก ๆ หรือฝันร้ายขึ้นมา เช่นเป็นหวัดมีน้ำมูกเยอะจนหายใจทางจมูกไม่ค่อยออก จึงฝันว่ามีโจรเข้าบ้านและปิดปากปิดจมูกหรือฝันว่าอยู่ในที่แคบไม่มีอากาศถ่ายเทจนหายใจไม่ออก
2. อนุภูติบุพพะ
เกิดจากอารมณ์ ความรู้สึกที่เก็บไว้หรือค้างคาใจก่อนที่จะนอนหลับและเก็บไปฝัน เช่นคุยเรื่องงานกับเพื่อนร่วมงาน จึงเก็บมาฝันว่ากำลังทำงานอยู่หรือฝันว่ากำลังเข้าประชุมงาน ได้รับความคิดเห็นเกี่ยวกับงานที่ทำจากเพื่อนร่วมงาน

3. เทวโตปสังหรณ์
เกิดจากเทวดา พรหม ภูติผีปีศาจ วิญญาณต่าง ๆ มาดลบันดาลให้เกิดความฝันหรือมาเข้าฝัน เช่น เทวดามาเข้าฝันบอกสิ่งที่เป็นมงคล เช่น บอกเลขเด็ดหรือข่าวดีต่าง ๆ วิญญาณเข้าฝันมาขอส่วนบุญส่วนกุศลโดยให้เราทำบุญไปให้
4. บุพพนิมิต
เกิดจากความฝันบอกเหตุ กล่าวคือเป็นความฝันที่เป็นสัญญาณบอกส่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต อาจเกิดตัวเราเองหรือมีโอปปาติกะมาทำให้เกิดความฝัน เช่นฝันว่าได้เลื่อนขั้นตำแหน่งงาน ไม่กี่วันต่อมาได้เลื่อนขั้นตำแหน่งงานจริง ๆ