เหตุแห่งความฝัน
ความฝัน เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายอย่างหนึ่งที่สามารถแสดงถึงลางบอกเหตุล่วงหน้าได้
ในทางพุทธศาสนา มีหลายคัมภีร์ที่กล่าวถึงมูลเหตุแห่งความฝันไว้ เราลองมาศึกษาก้น!!!
ลางบอกเหตุ ในทางพุทธศาสนาเรียกว่า "บุพนิมิต"คือ ลักษณะ สภาวะ อาการ เหตุปัจจัย หรือ เครื่องหมายที่แสดงให้รู้ล่วงหน้าก่อนที่ปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ใดๆ จะเกิดขึ้น เช่น ก่อนที่ ดวงอาทิตย์จะขึ้นในตอนเช้าเราจะมองเห็นแสงสว่างที่ขอบฟ้าก่อน หรือก่อนที่ฝนจะตก เราจะเห็น เมฆฝนก่อน อย่างนี้เรียกว่าเป็นบุพนิมิต ซึ่งจะมีสิ่งที่เป็น สัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมาย ที่แสดงให้เห็น ล่วงหน้า ว่าสิ่งนั้นๆ เหตุการณ์นั้นๆ หรือปรากฏการณ์นั้นๆ กำลังจะเกิดมีเกิดเป็นขึ้นมา
สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นล่วงหน้านี้มีอยู่หลายประเภท เช่น ลักษณะของคน สัตว์ สิ่งของ พืช ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ความฝัน เป็นต้น ความฝัน เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมาย อย่างหนึ่งที่สามารถแสดงถึงลางบอกเหตุล่วงหน้าได้ ในทางพุทธศาสนา มีหลายคัมภีร์ที่กล่าวถึง มูลเหตุแห่งความฝันไว้ เช่น คัมภีร์ทุติยสมันตปาสาทิกา และ คัมภีร์สารัตถสังคหะ เป็นต้น ใน คัมภีร์สารัตถสังคหะ มีการกล่าวถึงลักษณะการเกิดขึ้นของความฝันว่ามี 4 ลักษณะคือ
1. ธาตุโขกเกิดจากธาตุวิปริต คือ ความฝันที่เกิดจากความเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงของสสารและพลังงาน ในร่างกาย ร่างกายมีความผิดปกติ หรือป่วยเป็นโรคต่างๆ เช่น บางคนนอนทับแขนตัวเอง ทำให้เลือดเดินไม่ได้ ทำให้เกิดอาการชาหรือเจ็บที่แขน จึงฝันว่ามีคนมาตีแขนบ้างประสบอุบัติเหตุ และบาดเจ็บที่แขนบ้าง หรือบางคนเป็นหวัดคัดจมูกจึงฝันว่ามีคนมาปิดปากปิดจมูกทำให้หายใจ ไม่ออกบ้าง อยู่ในที่แคบที่ไม่มีอากาศหายใจบ้าง
2. อนุภูติบุพพะเกิดจากอารมณ์ในกาลก่อน คือ ความฝันที่เกิดจากอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้น ที่เก็บไว้ หรือยังค้าง คาใจอยู่เมื่อก่อนที่จะนอนหลับ เช่น บางคนก่อนนอนได้คุยกับเพื่อนเรื่องการเรียน จึงเก็บมาฝันว่า ทำข้อสอบได้คะแนนสูงหรือฝันว่าถูกครูต่อว่าหรือฝันว่าทำการบ้านถูกหมดทุกข้อ
บางคนทำจานใบที่แม่ชอบแตกในตอนกลางวัน จึงเก็บมาฝันในตอนกลางคืนว่าได้ซื้อจานใบใหม่ที่ เหมือนกันทุกประการกับใบที่แม่ชอบมาไว้แทนที่เรียบร้อยแล้ว บางคนมีความตั้งใจว่าจะบวชทดแทน คุณพ่อแม่นานมาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสและเวลาที่จะบวชเนื่องจากติดภารกิจการงาน และตอนกลางวัน เขาได้เห็นพระสงฆ์ คืนนั้นเขาจึงเก็บเอาอารมณ์ความตั้งใจในกาลก่อนมาฝันว่าได้บวชให้พ่อแม่ เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันที่เกิดจากอารมณ์ในกาลก่อน

3. เทวโตปสังหรณ์เกิดจากเทวดาหรือพวกโอปปาติกะ (เทวดา, พรหม, สัตว์นรก, เปรต, ภูตผีปีศาจวิญญาณ (แล้วแต่จะเรียกกัน)) มาดลสังหรณ์หรือมาเข้าฝัน เช่น วิญญาณคนตายมาเข้าฝันขอให้อุทิศส่วนบุญ ไปให้ มาเข้าฝันบอกหวย เทวดามาเข้าฝันบอกสิ่งที่เป็นมงคล เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันที่เกิดจาก โอปปาติกะดลสังหรณ์
4. บุพพนิมิตเกิดจากบุพนิมิตหรือความฝันบอกเหตุ คือ ความฝันที่บอกล่วงหน้าว่าจะเกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้น ในภายหน้า ซึ่งอาจเกิดจากญาณรู้ของเราเองหรือพวกโอปปาติกะมาดลสังหรณ์ เช่น ฝันว่าผู้ที่เสียชีวิต ไปแล้วมาขอเกิดด้วยและต่อมาบุตรที่เกิดมาจำอดีตชาติได้ว่าเป็นคนที่เคยมาเข้าฝันมาเกิด, ฝันว่า ไฟจะไหมบ้านและต่อมาได้เกิดไฟไหม้บ้านจริงๆ เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันบอกเหตุ ความฝันใน พุทธศาสนาเรานั้นไม่ใช่เป็นฝันเรื่อยเปื่อยไปทั้งหมด เพียงแต่ผู้ฝันไม่อยู่ในสภาวะที่จะรู้ได้ว่า ความฝัน นั้นเกิดจากสาเหตุใด ใน 4 สาเหตุดังกล่าวนี้เท่านั้นเอง